"
• ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงปรับตัวเพิ่มขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ จากดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคออกมาแข็งแกร่ง และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ยังเติบโต รวมถึงมีปัจจัยหนุนด้านการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ และรายงานข่าว CSRC ยืนยันที่จะปฏิรูปตลาดมากขึ้น และปรับปรุงคุณภาพของบริษัทจดทะเบียน
• แนะนำถือหรือลงทุนต่อในกองทุนหุ้นจีน เช่น กองทุน K-CHINA, K-CHX, K-CCTV
"
22 ธ.ค. 65 ตลาดหุ้นฮ่องกงและจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยดัชนี HSCEI +3.33% HSI +2.71% CSI 300 +0.14% เทียบกับวันก่อนหน้า ส่งผลให้กองทุนหุ้นจีนอย่างกองทุน K-CHINA, K-CHX, K-CCTV ณ 22 ธ.ค. 65 ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น +1.95%, +0.71% และ +0.28% เทียบกับวันก่อนหน้า ตามลำดับ
ต่อมาวันที่ 23 ธ.ค. 65 ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงปรับตัวลงเล็กน้อย โดยดัชนี HSCEI -1.09% HSI -0.44% CSI 300 -0.20% เทียบกับวันก่อนหน้า เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างหนักในจีนขณะนี้จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการใช้จ่ายของผู้บริโภค
ทำไมหุ้นจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น
22 ธ.ค. 65 ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอย่าง Tencent, NetEase และ Baidu ที่ปรับตัวขึ้น +4.24% +4.62% และ +6.19% เทียบกับวันก่อนหน้า ตามลำดับ และหุ้นกลุ่มอีคอมเมิร์ซ อย่าง Alibaba, JD.com และ Meituan ที่ปรับตัวขึ้น +5.21% +6.30% และ +6.49% เทียบกับวันก่อนหน้า ตามลำดับ เนื่องจากได้รับแรงหนุนตามการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคออกมาแข็งแกร่ง โดยพุ่งขึ้นสู่ระดับ 108.3 ในเดือนธ.ค. และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ยังเติบโต
รวมถึงมีปัจจัยสนับสนุนด้านอสังหาริมทรัพย์ หลังจากการประชุมของคณะมนตรีรัฐกิจสาธารณรัฐประชาชนจีน (China State Council) และธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้เปิดเผยถึงแนวทางการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีน เพื่อช่วยฟื้นฟูภาคอสังหาริมทรัพย์หลังจากทรุดตัวหนักในปีที่ผ่านมาจากการบังคับใช้นโยบาย Three-Red Lines ในปี 2563 ซึ่งภายหลังการประชุม รัฐบาลจีนมีแนวโน้มที่จะลงทุนก่อสร้างโปรเจคใหญ่ๆ รวมถึงสนันสนุนบริษัทอสังหาริมทรัพย์เอกชน และรายย่อยต่อไป สอดคล้องกับสิ่งที่ประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง ได้กล่าวไว้ในงานประชุม Central Economic Work Conference ถึงแนวทางการพลิกฟื้นภาคการบริโภค สนันสนุนบริษัทและธุรกิจในภาคอสังหาริมทรัพย์ และการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปี 2566
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยังขานรับรายงานข่าวว่า คณะกรรมการกำกับดูแลด้านกฎระเบียบหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) ยืนยันที่จะปฏิรูปตลาดมากขึ้น และปรับปรุงคุณภาพของบริษัทจดทะเบียน
ทั้งนี้ หลังจากรัฐบาลจีนได้ออกนโยบายผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตก็ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่รัฐบาลจีนยังคงเดินหน้าผ่อนคลายมาตรการต่อไป รวมถึงออกมาตรการสนับสนุนการเปิดเมืองและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เช่น ให้บริษัททางการแพทย์เร่งผลิตยา ชุดตรวจ ATK และหน้ากากอนามัย เพื่อรองรับจำนวนผู้ติดเชื้อที่จะเพิ่มขึ้น
มุมมองการลงทุนหุ้นจีน
• การผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 รวมถึงมาตรการฟื้นฟูและเสริมสภาพคล่องให้กับตลาดอสังหาริมทรัพย์ จะเป็นปัจจัยที่ช่วยเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับมา
• อีกทั้งราคาหุ้นอยู่ในระดับที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับตลาดอื่น และทิศทางนโยบายเศรษฐกิจและนโยบายการเงินของจีนยังเป็นแบบผ่อนคลาย ซึ่งสวนทางกับประเทศอื่นๆ ที่เป็นแบบตึงตัวมากขึ้น
คำแนะนำการลงทุน
• ผู้ที่ถือกองทุนหุ้นจีน เช่น K-CHINA, K-CHX, K-CCTV ฯลฯ แนะนำถือลงทุนต่อ ส่วนผู้ที่ต้องการลงทุนเพิ่ม สามารถทยอยลงทุนเพิ่มได้ แต่ควรเป็นเงินที่สามารถลงทุนระยะยาวได้
• สำหรับผู้ที่กังวลกับความผันผวนของตลาดหุ้น แต่ยังคงรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้หรือต้องการรับผลตอบแทนระยะยาว แนะนำลงทุนกองทุนผสม เช่น กองทุน K-GINCOME-A(A) ที่มีการแบ่งสัดส่วนและกระจายเงินลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายทั่วโลก ช่วยลดความผันผวนและความเสี่ยงจากการลงทุนในสินทรัพย์หรือหุ้นที่กระจุกตัวเพียงบางประเทศ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก KAsset, Ryt9, Finnomena
Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”